Sunday 3 July 2016

การยอมรับความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต แต่การยอมแพ้และย่ำอยู่กับที่ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข คือการหยุดการเปลี่ยนแปลง และเราก็จะเป็นเหมือนเดิม นอกเสียจากว่า เราไม่ได้รักที่จะทำงานด้านนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะโกหกตัวเองต่อไป

#บทความจากรุ่นสู่รุ่น โดย น.ส.อรอุไร วิศิษฐ์ชัยชาญ (JR.MEW)

นักศึกษาฝึกงาน JR.SKY 01/2016

เป็นผู้ช่วยผู้กำกับอย่างไรให้ถูกใจผู้กำกับ...? 

จวนเวลาจะสิ้นสุดการฝึกงาน ก็พบว่าเราสามารถตอบคำถามนี้ได้แล้ว
ไม่มีทางเลยที่เราจะทำอะไรถูกใจใครไปเสียหมด นั่นเพราะเราเอาใจเราเป็นที่ตั้ง เรามีเหตุผลของเรา เราอ้างความรู้ของเรา เราเชื่อประสบการณ์ของเรา และเมื่อถึงเวลาที่เราต้องมาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับทั้งที่ไม่เคยคิดมาก่อน

สิ่งแรกที่ทำก็ไม่ต่างกับมนุษย์ Gen Y อีกหลายคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตหาข้อมูลแทนห้องสมุด แทนการถามผู้รู้ในวงการ แทนการปรึกษาใครสักคน เพราะโลกในอินเตอร์เน็ตทำให้เราไม่ต้องเผชิญหน้า แต่ตำแหน่งที่เรากำลังเข้ามาสัมผัส กลับพบคำตอบแล้วว่า...

นี่คืองานที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้กำกับ และทีมงานทั้งกองถ่าย! หากจะถามว่าทำงานแบบไหนให้ผู้กำกับถูกใจ ก็ต้องเริ่มที่การ กำกับใจของตัวเองเสียก่อน...

การกำกับใจของตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด เพียงไม่กี่วันแรกที่เริ่มงานเราก็เข้ากับสังคมใหม่ได้ ทั้งที่จริงๆ เราก็เหมือนคนทั่วๆ ไป ที่กลัวเข้าสังคมไม่ได้ กลัวเจอคนที่ยากจะทำความรู้จัก กลัวเจออคติตั้งแต่วันเริ่มงาน แต่เมื่อเดินเข้ามาที่นี่จิตใจมันก็โล่งขึ้นจากความกลัวไร้สาระพวกนั้น เรามองว่าทุกคนมีความเท่ากัน มองมารยาทเป็นเรื่องสำคัญ มองโต๊ะทำงานตรงหน้าว่ามีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมาก และความอ่อนน้อมทำให้คนรอบข้างเราหลายๆ คนก็พร้อมจะเป็นครูให้กับเรา เท่านั้นแหละ...

จุดเริ่มต้นมันก็ดูง่ายไปหมด การปล่อยวางใจให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมใหม่ทำได้ไม่ยาก รอยยิ้มไม่ยากเกินกว่าจะมอบให้เพื่อนที่นั่งข้างๆ ปากไม่หนักเมื่อคิดจะทักทายใครสักคนที่เปิดประตูเข้ามา เสมอต้นเสมอปลายกับสิ่งเหล่านี้ มันก็ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น แล้วความสุขในที่ทำงานนี่แหละที่จะเป็นแรงผลักดันให้งานออกมาดี

เมื่อการทำงานที่แสนวุ่นวายได้เริ่มต้นขึ้นใน 1 เดือนข้างหน้ามีงานถ่ายหนังโฆษณาติดต่อกัน 3 กองถ่ายเป็นอย่างน้อย เรา และเพื่อนนักศึกษาฝึกงานทุกคน ทุกแผนก ต่างก็มีหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ ในฐานะนักศึกษาฝึกงานผู้ช่วยผู้กำกับที่ได้รับมอบหมายให้รับ Job โดยตรง มันเป็นความกดดันที่บังคับว่า ถ้าทำออกมาได้ไม่ดี ก็อย่าทำเลยดีกว่า เพราะงานที่ออกมาไม่ดี ไม่ได้หมายถึงว่าเราโง่หรือฉลาดอย่างเดียว แต่หมายถึงความใส่ใจ และเราได้ทำเต็มที่สุดความสามารถแล้วหรือเปล่า

ผู้กำกับแต่ละคนมี Lifestyle แตกต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ผู้กำกับต้องการกำกับหนังของเขาออกมาให้ดีที่สุดด้วยวิธีของตัวเอง และเขาสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีผู้ช่วยผู้กำกับ เพราะฉะนั้น การเป็นผู้ช่วยผู้กำกับที่ดีและเก่ง คือการเป็นผู้แบ่งเบาภาระ ไม่ใช่เพิ่มภาระ

เราต้องเรียนรู้วิธีการทำงาน กระบวนการคิด ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้ไวพอที่จะเป็นงานให้เร็ว รอบคอบทุกรายละเอียด เรียนรู้ที่จะซื่อสัตย์ต่อตัวเอง และอย่ายอมแพ้เมื่อเรารู้สึกว่าทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เพราะทุกคนที่เก่งกว่า พวกเขามีมูลค่าของเวลาและประสบการณ์มากกว่าเรา

การยอมรับความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต แต่การยอมแพ้และย่ำอยู่กับที่ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข คือการหยุดการเปลี่ยนแปลง และเราก็จะเป็นเหมือนเดิม
นอกเสียจากว่า เราไม่ได้รักที่จะทำงานด้านนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะโกหกตัวเองต่อไป 

ท้ายที่สุด ความใส่ใจนี่แหละสำคัญการทำงานไม่ว่าจะเป็นงานผู้ช่วยผู้กำกับ,Producer, Casting, Costume, Art, Post ทุกๆ ฝ่ายต้องร่วมกับผู้กำกับ ผลิตหนังโฆษณาชิ้นหนึ่งขึ้นมาอย่างขาดใครไปไม่ได้ ความใส่ใจในงานทำให้งานทุกชิ้นออกมาดีแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย

การให้กำลังใจแม่ครัว, แม่บ้าน การให้ความเคารพยามของบริษัท ก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีที่ไม่ควรมองข้าม

งานผู้ช่วยผู้กำกับจากประสบการณ์ที่ได้รับมาที่นี่ตลอด 4 เดือน เป็นเหมือนคำสอนของพ่อคนหนึ่งที่สั่งเสียก่อนส่งลูกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง

ขอบคุณครอบครัวสกายในมุมดีๆ มากมายที่มอบให้มาเป็นความทรงจำ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างค่ะ

 Written by JR.MEW / Date: 27-04-2016

“ไม่ว่าพวกเราจะทำงานอะไรก็ตาม ทุกงานมีความยากง่ายหมด อยู่ที่ใครจะทน และอึดกว่ากัน” ซึ่งทำให้พวกเราทุ่มเท ในการทำงานในแต่ละงานที่ได้รับ และมีความภาคภูมิใจทุกครั้ง ที่ผลงานนั้นได้ออกอากาศสู่คนทั้งประเทศ

THE STORY FROM SENIOR

ชื่อ / Name : นายกสิณ อนุสาร (ช้าง) นักศึกษาสหกิจศึกษา ปีการศึกษา 2558

Cooperative Education Student 2016 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ฝึกงานตำแหน่ง Asst.Director (ผู้ช่วยผู้กำกับ)

ช่วงเวลา 25 ม.ค. 59 – 13 พ.ค. 59

ความรู้สึกของการฝึกงานในสถานประกอบการ / The intern’s feedback on working in the authentic workplace

เริ่มต้นผมชอบงานทางด้านโปรดั่กชั่นเฮ้าส์ งานที่จะได้ลงมือทำจริงๆ ได้เจอผู้กำกับตัวจริง นักแสดงตัวจริง ผมก็ได้ตั้งใจไว้ว่าจะไปฝึกงานสหกิจศึกษาที่ บริษัท สกายเอ็กซิทส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท ชั้นนำในการผลิตสื่อโฆษณาแนวหน้าของประเทศไทย

พอผมรู้ตัวว่าสถานประกอบการตอบรับก็รู้สึกดีใจมากและนัดวันสัมภาษณ์ เพราะเป็นงานที่ตรงสายกับที่ได้เรียนมาและตื่นเต้นที่ได้นำความรู้จากห้องเรียนไปใช้จริง วันแรกในการสัมภาษณ์ ก็รู้สึกดีตื่นเต้น เกร่งๆ จนพี่ต้อย เอ้ยปากถามมาคำนึ่ง ว่า “เราเป็นตุ๊ดหรอ” ซึ่งผมอดขำตัวเองไม่ได้ เพราะหน้าตัวเอง.... โคตรเถื่อน..... 

สิ่งแรกที่ผมได้รับจาก สกายเอ๊กซิทส์ คือ...โอกาส...

เป็นสิ่งเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับผมเลย เพราะโอกาส นำพาผมมาสู่การได้พบเจอหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมได้รับ ที่นี่สอนให้ผมรุ้จักความรับผิดชอบ สอนให้ผมมีความรอบคอบ สอนให้เราทำงานร่วมกับคนอื่นได้ดี สอนให้เรารู้จักช่วยเหลือผู้อื่น แหละหลายครั้งที่ ผู้กำกับคนเก่งของพวกเรา “พี่อ่ำ” สอนให้พวกเรารู้จัก ความคิด คิดในแงบวกเข้าไว้ คิดในสิ่งดีดี ไม่มีดราม่า และชีวิตจะดี ..

สอนในเรื่องการทำงาน พูดอยู่เสมอว่า “ไม่ว่าพวกเราจะทำงานอะไรก็ตาม ทุกงานมีความยากง่ายหมด อยู่ที่ใครจะทน และอึดกว่ากัน” ซึ่งทำให้พวกเราทุ่มเท ในการทำงานในแต่ละงานที่ได้รับ และมีความภาคภูมิใจทุกครั้ง ที่ผลงานนั้นได้ออกอากาศสู่คนทั้งประเทศ 

ขอขอบคุณพี่ทุกคน ที่มีส่วนร่วมในประสบการณ์ฝึกงาน ที่ค่อยช่วยสอน แนะนำ ทุกๆๆอย่าง อย่างเต็มที่ ขอขอบคุณด้วยใจจริงครับ JR.CNG